วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ความ “ล้มเหลว” นี่แหละคือ "ครู" ที่ดีที่สุด!! แนวคิด 5 ประการของ Bill Gates

   บลูมเบิร์กเผยผลจัดอันดับคนรวย"บิล เกตส์" ยังครองแชมป์มหาเศรษฐีโลกมีทรัพย์สิน 72,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลก เดือนกันยายน ปี 2556 โดยบลูมเบิร์ก มิลิแนร์ ระบุว่าบิล เกตส์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ยังคงรั้งแชมป์รวยที่สุดในโลก แม้มูลค่าทรัพย์สินจะลดลง 507.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 16,227 ล้านบาท จากเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยมีทรัพย์สิน 72,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.3 ล้านล้านบาท ซึ่งร่ำรวยมาจากหุ้นไมโครซอฟท์ และทรัพย์สินของเขา 25% มาจากไมโครซอฟท์ 


1. “ความสำเร็จ เป็นครูที่ไม่ดี เพราะมันทำให้คนเก่งๆ หลายคน แพ้ไม่เป็น! ”
ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน การอ่อนน้อมถ่อมตนคือสิ่งที่สำคัญ เพราะความสำเร็จก็เหมือนชีวิตคนเรานั่นแหละ ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนไปตลอด คุณสำเร็จในวันนี้ แต่ตื่นขึ้นมาในวันถัดไป ทุกอย่างอาจจะหายวับไปกับตาก็เป็นได้ทางที่ดีที่สุดก็คือ ถึงแม้วันนี้ชีวิตคุณจะเปลี่ยน เพราะคุณประสบความสำเร็จ แต่อย่าให้มันเปลี่ยนแปลงตัวตนที่อยู่ภายในของคุณ คุณยังปฏิบัติต่อทุกคนรอบตัวเหมือนเช่นเดิม และรู้จักที่จะให้อะไรคืนสู่โลกที่คุณอาศัยอยู่บ้างการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ เรียนรู้จากความล้มเหลว ไม่ใช่เรียนรู้จากความสำเร็จ เพราะฉะนั้น อย่าให้ความสำเร็จในวันนี้มาบังตาคุณ

2. “อย่าเปรียบเทียบตัวคุณเอง กับใครก็ตามในโลก เพราะถ้าคุณทำ คุณกำลังดูถูกตัวเองแล้วล่ะ”
คุณมีความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เพราะฉะนั้น จำไว้ว่า ความสำเร็จมันขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะให้คำนิยามเป็นอย่างไร ใช้ชีวิตในทุกๆ วันของคุณอย่างมีค่าที่สุด อย่าเปรียบเทียบความสำเร็จของคุณ กับของคนอื่นเราทุกคนเดินด้วยความเร็วที่ต่างกัน เดินกันคนละเส้นทาง และถึงแม้บางทีเราอาจจะหลงทาง ผิดพลาดไปบ้าง ก่อนที่เราจะสำเร็จ แต่นั่นคือส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่ความสำเร็จไม่ใช่หรอ ดังที่ J.R.R. Tolkien เคยกล่าวไว้ว่า “Not all those who wander are lost. – ไม่ใช่ทุกคนที่เดินไปมา คือคนที่กำลังหลงทางทั้งหมดหรอกนะ”

3. “ลูกค้าที่โหดสุดๆ ของคุณ หรือไม่พอใจในการบริการของคุณที่สุด คือบทเรียนที่ดีที่สุดของคุณ”
นี่คือคำแนะนำที่ดีมากๆ สำหรับผู้ประกอบการว่า บทเรียนที่ดีที่สุดของคุณ คือลูกค้าที่ไม่พอใจในสินค้าหรือบริการของคุณ ยิ่งถ้าเจอลูกค้าหลายๆ คนบ่นเรื่องเดียวกัน นั่นหมายความว่า คุณรู้แล้วว่า คุณต้องแก้ปัญหาที่จุดไหนสิ่งนี้ใช้ได้กับ คนอื่นๆ เช่นกันในการใช้ชีวิต เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างดี จากคนที่ไม่ชอบเรา หรือไม่พอใจเรา โดยเฉพาะคนใกล้ตัว เพราะมันทำให้เรารู้ว่า เราควรปรับปรุงตรงไหนหรือเปล่า ที่เขาไม่พอใจมันเพราะอะไร ซึ่งถึงแม้หลายๆ คนอาจจะบอกว่า เราไม่ควรสนใจสิ่งที่คนอื่นคิดมากเกินไป แต่นั่น คือความจริงในแง่ของคนที่เราไม่รู้จัก หรือ คนแปลกหน้า แต่ถ้ากับคนใกล้ตัวเรา เกิดไม่พอใจอะไรเราขึ้นมา นั่นคือเรื่องที่เราต้องคิด และดูว่า เราต้องปรับปรุงอะไรหรือไม่ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือ คุยกับเขา สื่อสารให้เข้าใจกัน และแก้ไขต่อไป

4. “ดีๆ กับพวกเนิร์ดๆ ไว้ก็ดี วันข้างหน้า คุณอาจจะต้องทำงานให้พวกเขาก็ได้”
ความนิยมของบุคคล บางทีมันก็เป็นอะไรที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตลอดเมื่อเวลาผ่านไป คนที่ดูขี้แพ้สุดๆ ตอนเรียนประถม พอขึ้นมอปลาย อาจจะกลายเป็นสาวฮอต ได้เป็นควีนงานพรอมของโรงเรียนก็เป็นได้เหมือนกัน บางทีเราเห็นคนเนิร์ดในหมาวิทยาลัย ก็อาจจะไม่อยากยุ่งด้วย หรือคบด้วย เพราะดูไม่เจ๋ง แต่คิดดูดีๆ พวกนี้บางทีอาจจะออกจากมหาวิทยาลัย ไปสร้างชื่อ สร้างโลก และสุดท้ายคุณอาจจะต้องไปทำงานให้กับคนเหล่านั้นในชีวิตจริงก็เป็นได้เพราะฉะนั้น การทำดีกับคนอื่นๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม คือสิ่งที่ดี เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้า คนคนนั้นจะกลายไปเป็นใคร เราอาจจะต้องร่วมงานกับเขา ขอความช่วยเหลือเขา หรือเกื้อกูลกันในอนาคต เอาเป็นว่า มนุษยสัมพันธ์ดีไว้ก่อน ดีที่สุด

5. “ชีวิตไม่เคยยุติธรรมหรอก…ชินซะเถอะ”
ชีวิตคนเราไม่เคยงดงาม และโรยด้วยกลีบกุหลายหรอกนะ บางคนอาจจะดูชีวิตง่าย บางคนอาจจะมีชีวิตที่ยาก ชีวิตคนเราไม่เคยที่จะยุติธรรมอยู่แล้วล่ะ สิ่งเดียวที่คุณทำได้คือ “ยอมรับมัน และชินกับมันซะ” พยายามมองเรื่องดีๆ ในเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณ และจำไว้ว่า แสงสว่างจะไม่เกิดขึ้น ถ้ามันไม่มีความมืดมนเกิดขึ้นซะก่อนเพียงคุณยอมรับมันได้ว่า ความเจ็บปวด ความล้มเหลว คือส่วนหนึ่งของชีวิต ที่เป็นธรรมชาติ คุณก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้ และใช้มันนั่นแหละเป็นคุณครูที่จะเอาไว้สู้กับปัญหาในครั้งต่อไป

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น